วันเสาร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ข่าว คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ประจำเดือน กรกฎาคม

'โด้' กระสันร่วมงานเบนิเตซ ปิดปากข่าวรามอสย้ายซบผีแดง


คริสเตียโน โรนัลโด ปีกของ เรอัล มาดริด ชม ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือคนใหม่ของราชันชุดขาวว่าเพรียบพร้อมไปด้วยประสบการณ์ และตั้งตารอจะได้ร่วมงานกัน   พร้อมอุบไต๋ไม่บอกว่า เซร์คิโอ รามอส จะย้ายไปร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดหรือไม่.... 

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่  4 ก.ค. ว่า คริสเตียโน โรนัลโด ปีกทีมชาติโปรตุเกส ของ "ราชันชุดขาว"  เรอัล มาดริด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก ลา ลีกา สเปน  ยกย่อง ราฟาเอล เบนิเตซ เจ้านายคนใหม่ว่าเพรียบพร้อมไปด้วยประสบการณ์ และตั้งตารอจะได้ร่วมงานกัน   พร้อมปิดปากไม่บอกว่า เซร์คิโอ รามอส กองหลังเพื่อนร่วมทีม จะย้ายไปร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรืออยู่ต่อสัญญากับทีมต่อไป
สำหรับ เรอัล มาดริด ประกาศแต่งตั้ง ราฟาเอล เบนิเตซ เป็นกุนซือคนใหม่ แทนที่ คาร์โล อันเชลอตติ โดย คริสเตียโน โรนัลโด ได้อออกมาแสดงความเห็นถึงเจ้านายชาวสเปนว่า "ผมไม่เคยร่วมงานกับเขานะ แต่เขาเป็นโค้ชที่มากประสบการณ์อย่างมาก เดี๋ยวเราจะได้เห็นกันว่าเราจะคว้าแชมป์รายการใหญ่ๆได้ไหม ผมรอที่จะทำงานกับเบนิเตซแทบไม่ไหวแล้ว"
จากนั้นเมื่อถูกถามถึงกรณีที่ เซร์คิโอ รามอส กองหลังเพื่อนร่วมทีมราชันชุดขาว มีข่าวว่าจะย้ายไปร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงซัมเมอร์นี้นั้น โรนัลโด ตอบว่า "ผมไม่ทราบ"

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 5 ก.ค. 2558 00:40

..................................................................................................................................

เพื่อนก็ไม่เว้น! เปเป้ โชว์โหดย่ำ คริสเตียโน่ โรนัลโด้

14368838061436883821l
14368838061436883830l
เรียกได้ว่าเป็นขาโหดตัวจริงสำหรับ เปเป้ ปราการหลังทีมชาติโปรตุเกสของ “ราชันชุดขาว”เรอัล มาดริด ยักษ์ใหญ่แห่งลา ลีกา สเปน หลังเข้าย่ำ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เพื่อนร่วมทีมชาติและร่วมสังกัด ระหว่างลงซ้อมช่วงปรีซีซั่นร่วมกัน
มาดริดกำลังอยู่ในช่วงเก็บตัวที่ออสเตรเลีย และในระหว่างที่ทีมกำลังซ้อมเบาๆด้วยการเล่นลิงชิงบอลนั้น โรนัลโด้เข้าไปเย้าแหย่เปเป้ที่เป็นลิงอยู่กลางวง จากนั้นจึงซ้อมกันต่อและดูเหมือนจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น กระทั่งบอลมาทางโรนัลโด้อีกครั้ง เปเป้จึงเข้าสกัดบอลแบบไม่ปราณีปราศรัยจนย่ำเข้าไปที่ข้อเท้าของซูเปอร์สตาร์บัลลงดอร์เต็มๆ และถึงแม้โรนัลโด้จะลงไปนอนกองแล้ว เปเป้ก็เหมือนจะเข้ามาดูและขอโทษแบบผ่านๆ จนเเพื่อนร่วมทีมคนอื่นต้องมาดึงดาวเตะจอมสับรายนี้ขึ้นมาแทน
ทั้งนี้ “ราชันชุดขาว” จะลงเตะลา ลีกา นัดเปิดสนาม โดยบุกไปเยือนสปอร์ติ้ง กิฆอน ทีมน้องใหม่ ในวันที่ 23 ส.ค.
ที่มา  ข่าวสดออนไลน์ วันที่ 19 กรกฎาคม 2558
.................................................................................................


'โรนัลโด' ยอดดาวยิงสโมสรยุโรป 4 สมัย

'โรนัลโด' ยอดดาวยิงสโมสรยุโรป 4 สมัย

สปอร์ต คม วีกเอนด์ : 'โรนัลโด' ยอดดาวยิงสโมสรยุโรป 4 สมัย


แม้จะไร้ความสำเร็จบนสังเวียนแข้งจากฤดูกาลก่อน หลังทีมต้นสังกัด "ราชันชุดขาว" รีล มาดริด ยักษ์ใหญ่แห่งศึกลาลีกา สเปน ไม่มีถ้วยแชมป์ติดมือแม้แต่รายการเดียว ทว่า คริสเตียโน โรนัลโด ปีกกัปตันทีมชาติโปรตุเกส ยังคงความเป็นสุดยอด "ดาวยิง" ในโลกของฟุตบอลเอาไว้ได้เหมือนเดิม เพราะสามารถรักษาบัลลังก์ดาวซัลโวสูงสุดของลีกลูกหนังยุโรปเอาไว้ได้อีกหนึ่งสมัย
                      เนื่องจากดาวเตะวัย 30 ปีรายนี้คว้าตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดของศึกลาลีกา สเปน ประจำฤดูกาล 2014/15 ด้วยจำนวน 48 ประตู พร้อมกับยึดรางวัลที่มีชื่อเรียกตามภาษาของเมืองกระทิงดุว่า "ปิชีชี โทรฟี" ไปครองได้เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน เพราะเคยหยิบรางวัลนี้มาเชยชมได้แล้วถึง 2 ครั้ง ในช่วงฤดูกาล 2010/11 และ 2013/14 นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทัพ "ราชันชุดขาว" ในปี 2009 
                      นอกจากนี้ โรนัลโด ยังสามารถยึดบัลลังก์ "ดาวซัลโวสูงสุดของลีกลูกหนังยุโรป" ได้เป็นสมัยที่ 4 และเตรียมได้รับรางวัล "รองเท้าทองคำ" หรือที่เรียกกันตามชื่อภาษาอังกฤษว่า "ยูโรเปี้ยน โกลเดน ชู" ประจำฤดูกาล 2014/15 จากยูโรเปี้ยน สปอร์ตส์ มีเดีย หรืออีเอสเอ็ม ซึ่งเป็นสมาคมที่เกิดขึ้นจากการรวมตัวของบรรดานิตยสารฟุตบอลระดับชั้นนำในทวีปยุโรปที่ร่วมกันแจกรางวัลนี้เป็นประจำทุกปี 
                      สำหรับ กฎกติกา การให้คะแนนนักฟุตบอลที่มีสิทธิ์คว้ารางวัล "รองเท้าทองคำ" จะวัดจากผลงานการยิงประตูในเกมฟุตบอลลีกที่ผู้เล่นแต่ละรายใช้ชีวิตค้าแข้งอยู่เป็นหลัก ซึ่งจะมีการนับคะแนนที่แตกต่างกันไป เพราะถ้าหากผู้เล่นคนใดสามารถซัลโวตาข่ายใน 5 ลีกลูกหนังที่มีมาตรฐานสูงที่สุดในยุโรป ไล่ตั้งแต่พรีเมียร์ลีก อังกฤษ, ลาลีกา สเปน, กัลโช ซีรีส์ เอ อิตาลี, บุนเดสลีกา เยอรมนี และลีกเอิง ฝรั่งเศส ได้ 1 ประตูก็จะได้รับการคูณ 2 เข้าไปทันที ซึ่งเป็นไปตามค่าสัมประสิทธิ์ของสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือยูฟ่า ที่กำหนดเอาไว้มานานแล้ว แต่ถ้าเป็นในลีกอื่นๆ ก็จะมีคะแนนลดหลั่นลงไปตามมาตรฐานของแต่ละชาติ     
                      ก่อนหน้านี้ โรนัลโด เคยได้ชูรางวัล "รองเท้าทองคำ" มาแล้วถึง 3 ครั้ง เริ่มจากสมัยที่ยังค้าแข้งให้ "ปีศาจแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด ทีมเก่าในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อฤดูกาล 2007/08 จากการยิงประตูไปได้มากถึง 31 ลูก ส่วนครั้งที่ 2 เกิดขึ้นในช่วงฤดูกาล 2010/11 จากการยิงประตูให้ "ราชันชุดขาว" ไปได้มากถึง 40 ลูก และครั้งที่ 3 เมื่อฤดูกาล 2013/14 จากการซัลโวให้ทีมต้นสังกัดปัจจุบันได้ทั้งหมด 31 ลูก จึงได้รับรางวัลนี้ร่วมกับ หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าทีมชาติอุรุกวัยในสมัยที่ยิงประตูให้ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ได้จำนวนเท่ากันพอดี ก่อนจะย้ายไปร่วมทัพ "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลนา หลังจบฤดูกาลนั้น
                      ส่วนฤดูกาล 2014/15 โรนัลโด ได้รับคะแนนรวมมากที่สุด เนื่องจากศึกลาลีกา สเปน มีค่าสัมประสิทธิ์ที่ต้องคูณด้วย 2 และเมื่อซัลโวตาข่ายในลีกสูงสุดเมืองกระทิงดุได้มากถึง 48 ประตู จึงได้รับคะแนนมากที่สุดถึง 96 แต้ม ขณะที่ ลิโอเนล เมสซี ดาวเตะกัปตันทีมชาติอาร์เจนตินา ซึ่งเคยคว้ารางวัล "รองเท้าทองคำ" ได้ถึง 3 สมัย ในปี 2010, 2012 และ 2013 เข้าป้ายเป็นอันดับ 2 ด้วยคะแนนรวม 86 แต้ม จากการยิงประตูให้ "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลนา ในลีกสูงสุดเมืองกระทิงดุได้ทั้งหมด 43 ประตู ด้านอันดับ 3 เป็นของ "เอล กุน" เซอร์จิโอ อาเกโร กองหน้าทีมชาติอาร์เจนตินา ในฐานะดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซึ่งมีค่าสัมประสิทธิ์ที่ต้องคูณด้วย 2 จึงมีคะแนนรวม 52 แต้ม เพราะสามารถสอยตาข่ายให้ "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี ได้ทั้งหมด 26 ลูก       
                      ขณะที่อันดับ 4 ได้แก่ โจนาธาน โซเรียโน กองหน้าชาวสเปน ในฐานะดาวซัลโวลีกสูงสุดออสเตรีย ซึ่งมีค่าสัมประสิทธิ์ที่ต้องคูณด้วย 1.5 จึงมีคะแนนรวม 46.5 แต้ม เพราะสอยตาข่ายให้ เรดบูลส์ ซัลซ์บวร์ก ได้ทั้งหมด 31 ลูก ส่วนอันดับ 5 เป็นของ 4 กองหน้าฝีเท้าดีจาก 2 ลีกลูกหนังระดับชั้นนำของยุโรปตามค่าสัมประสิทธิ์ที่ต้องคูณด้วย 2 จึงมีคะแนนรวม 44 แต้มจากการยิงประตูให้ทีมต้นสังกัด 22 ลูก ได้แก่ 2 ดาวซัลโวร่วมแห่งศึกกัลโช ซีรีส์ เอ อิตาลี นั่นก็คือ เมาโร อินคาร์ดี กองหน้าทีมชาติอาร์เจนตินาของ "งูใหญ่" อินเตอร์ มิลาน กับ ลูกา โทนี หัวหอกจอมเก๋าชาวอิตาเลียนของเวโรนา รวมถึง 2 ดาวเตะแห่งศึกลาลีกา สเปน อย่าง อองตวน กรีซมันน์ กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสของ "ตราหมี" แอตเลติโก มาดริด และ เนย์มาร์ หัวหอกทีมชาติบราซิลของบาร์เซโลนา นั่นเอง          
                      ส่งผลให้ โรนัลโด ครองรางวัล "รองเท้าทองคำ" มากที่สุดถึง 4 สมัย เหนือกว่าคู่แข่งร่วมลีกเดียวกันอย่าง ลิโอเนล เมสซี ดาวเตะกัปตันทีมชาติอาร์เจนตินาของ "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลนา อยู่หนึ่งครั้งนั่นเอง


กีฬา : คอลัมน์เด็ด

..............................................................................................................
โชคชะตานำพา! ราฟาเผยเคยคิดเซ็น 'โด้' สมัยคุมค้างคาว
เทรนเนอร์คนใหม่ของโลส บลังโกส เผยความจริงในอดีตว่าเขาเคยพยายามคว้าตัว CR7 มาร่วมทีมให้ได้สมัยยังคุมบาเลนเซียแต่ทำไม่สำเร็จ ก่อนที่โด้จะไปแจ้งกับอย่างเต็มตัวกับปีศาจแดง
ราฟาเอล เบนิเตซ ผู้จัดการทีมคนใหม่ของ เรอัล มาดริด ออกมาเปิดเผยความจริงในอดีต ว่าเขาเคยพยายามเซ็นสัญญาคว้าตัว คริสเตียโน โรนัลโด้ กัปตันทีมชาติโปรตุเกสมาร่วมทีมให้ได้ ตั้งแต่สมัยยังคุมบังเหียน บาเลนเซีย เมื่อเกือบ 15 ปีก่อน
เอลบอสสมองเพรชร เข้ามาคุมทัพไอ้ค้างคาวแทน เฮคเตอร์ คูเปอร์ เมื่อปี 2001 พร้อมกับพายอดทีมแห่งถิ่นเมสตายา สเตเดี้ยม ประสบความสำเร็จอย่างมากมาย ด้วยการคว้าแชมป์ ลา ลีกา สเปน 2 สมัย และ ยูฟ่า คัพ อีก 1 สมัย ก่อนย้ายไปคุม ลิเวอร์พูล ระหว่างปี 2004-10 จากนั้นย้ายไปคุมทีม อินเตอร์ มิลาน, เชลซี, นาโปลี และปัจจุบันเข้ามารับงานคุมทีม มาดริด ซึ่งเป็นต้นสังกัดแรกในชีวิตค้าแข้งของเขา
ล่าสุด 'ราฟา' พาย้อนอดีต โดยบอกว่าเขาเคยพยายามที่จะเซ็นสัญญาคว้าตัว โรนัลโด้ ที่สมัยนั้นยังเป็นดาวรุ่งของ สปอร์ติ้ง ลิสบอน มาค้าแข้งกับ บาเลนเซีย ให้ได้ แต่ความพยายามดังกล่าวต้องล้มเหลว เมื่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของกุนซือ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตัดหน้าคว้าลายเซ็นต์ CR7 ไปร่วมทีมในปี 2003 ด้วยค่าตัว 12.24 ล้านปอนด์ (ประมาณ 636 ล้านบาท) 
"เราพยายามที่จะเซ็นสัญญากับเขา (โรนัลโด้) เมื่อสมัยที่ผมคุม บาเลนเซีย เราชอบเขามากๆ แต่เราไม่สามารถทำให้มันเกิดขึ้นได้" ราฟา บอกกับ AS
"เขามักเป็นตัวปัญหาสำหรับผมอยู่เสมอ ตอนที่เขาเล่นอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตอนนี้เขาครบเครื่องมากขึ้น ซึ่งหากลองมองความก้าวหน้าของเขา เขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในโลกเลยล่ะ"
http://www.goal.com/
17 ก.ค. 2015 22:43:20
.......................................................................................................................................................

หล่อจริง! "โด้"เจอมือถือก่อนหาเจ้าของพาเลี้ยงดินเนอร์

หล่อจริง! "โด้"เจอมือถือก่อนหาเจ้าของพาเลี้ยงดินเนอร์
ซีอาร์เซเว่นโชว์วีรกรรมเรียกเสียงกรี๊ดจากสาวๆอีกแล้ว หลังพบมือถือเครื่องหนึ่งก่อนติดต่อหาเจ้าของพร้อมพาไปเลี้ยงมือค่ำ
คริสเตียโน โรนัลโด้ ซูเปอร์สตาร์ของเรอัล มาดริด สุดมีน้ำใจพาเจ้าของโทรศัพท์มือถือที่เขาพบไปเลี้ยงดินเนอร์สุดหรูระหว่างพักผ่อนในสหรัฐฯ
เหตุการณ์มีอยู่ว่ากัปตันทีมชาติโปรตุเกสไปพบโทรศัพท์มือถือเครื่องหนึ่งขณะพักผ่อนในลาสเวกัส ก่อนที่เขาจะรีบติดต่อหาเจ้าของและนำเอาไปคืนถึงมือ ออสติน มิลาน หญิงสาวผมบรอนด์ซึ่งเป็นเจ้าของโทรศัพท์ได้สำเร็จในสองวันต่อมา
ยิ่งกว่านั้น ซีอาร์เซเว่นยังใจป้ำออกปากชวนสาวคนดังกล่าวและเพื่อนๆของเธอรับประทานอาหารมื้อค่ำร่วมกันด้วย โดยเขารับหน้าที่เป็นเจ้ามือของอาหารมื้อดังกล่าวเอง
โดย ออสติน มิลาน โพสต์รูปคู่โรนัลโด้และเขียนข้อความในอินสตาแกรมส่วนตัวว่า "ข่าวร้ายคือฉันทำโทรศัพท์มือถือหายเมื่อสองวันก่อน ข่าวดีคือ คริสเตียโน โรนัลโด้ เป็นคนพบ ข่าวดีกว่านั้นคือเขาพาเราไปเลี้ยงมื้อค่ำเมื่อคืนนี้"
 http://www.goal.com/
..............................................................................................................
จุดชี้ขาด! อัลเวสเปรียบความต่าง"โด้-เมสซี"
จุดชี้ขาด! อัลเวสเปรียบความต่าง"โด้-เมสซี"

แบ็คขวาบราซิลเลียนเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างสองซูเปอร์สตาร์ลูกหนังแห่งยุค
แดเนียล อัลเวส แบ็คขวาจอมบุกของบาร์เซโลนา เผยความแตกต่างระหว่าง คริสเตียโน โรนัลโด้ กับ ลิโอเนล เมสซี โดยกล่าวว่าดาวยิงชาวอาร์เจนไตน์เป็นผู้เล่นที่มีอิทธิพลต่อเกมซึ่งเป็นสิ่งที่ซีอาร์เซเว่นไม่มี

ประเด็นที่ว่าสองคนนี้ใครคือผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลกคือสิ่งที่ผู้คนมากมายโต้เถียงกันมาตลอด และแน่นอนว่ากองหลังทีมชาติบราซิลก็ต้องออกมายกย่องเพื่อนร่วมสโมสรว่าเป็นนักเตะที่ดีกว่า ด้วยเหตุผลความมีอิทธิพลต่อเกมการเล่นของทีม

"เมสซีเหนือกว่า คริสเตียโน โรนัลโด้ มาก เมสซีมีอิทธิพลต่อเกมการเล่น ซึ่งเป็นสิ่งที่โรนัลโด้ไม่มี" แนวรับแซมบ้า กล่าวกับ Bola da Vez

"เขามีอิทธิพลต่อเกมดีกว่าการทำประตูเสียอีกและมีการเคลื่อนไหวที่แน่นอน"

"เมสซีคือผู้เล่นทรงอิทธิพล เขาลงเล่นและจ่ายบอลมากมาย เขามีพรสวรรค์จากพระเจ้า" 

"ส่วนคริสเตียโนคือคนที่ทำงานหนัก แม้เราต้องต่อสู้กัน แต่ผมก็ชื่นชมเขา เขาเป็นผู้ชายที่อุทิศตนและชอบการแข่งขัน"

"แต่โรนัลโด้ก็มีหลายสิ่งที่ผมไม่ชอบเพราะผมลงเล่นเพื่อทีม ผมคิดว่าทีมสำคัญมากกว่าตัวผมเอง ผมคิดว่าเขาแคร์สิ่งที่สำคัญจริงๆน้อยไปหน่อย นั่นก็คือการเล่นเป็นทีม ดังนั้นจึงมีเสียงวิจารณ์ตามมาในตอนที่เราฉลองแชมป์ลีก ในขณะที่เขาคว้ารางวัลดาวซัลโวของลีก"

http://www.goal.com/

..............................................................................................................................................................

ลิขิตฟ้า! เหยื่อสึนามิอินโดซบลิสบอนตามรอย"โด้"ผู้อุปถัมภ์


ลิขิตฟ้า! เหยื่อสึนามิอินโดซบลิสบอนตามรอย"โด้"ผู้อุปถัมภ์

เรื่องจริงยิ่งกว่านิยาย! เด็กหนุ่มอินโดเหยื่อสึนามิที่เคยได้รับความช่วยเหลือจากซีอาร์เซเว่นเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ย้ายซบลิสบอนตามรอยฮีโร่
มาร์ตูนิส ดาวเตะอินโดนีเซียวัย 17 กะรัต สร้างเรื่องราวสุดเหลือเชื่อ หลังเซ็นสัญญาและเปิดตัวเป็นแข้งใหม่ของสปอร์ตติง ลิสบอน ตามรอย คริสเตียโน โรนัลโด้ ผู้อุปถัมภ์ของเขาเมื่อ 11 ปีก่อน
โดยเจ้าหนูมาร์ตูนิสกับครอบครัวที่อาศัยอยู่ที่อินโดนีเซียต้องประสบกับภัยพิบัติสึนามิครั้งใหญ่ ซึ่งคร่าชีวิตคนใน 14 ประเทศที่อยู่ใกล้มหาสมุทรอินเดียไปมากถึง  230,000 คน เมื่อปี 2004 ซึ่งแม่กับพี่สาวทั้งสองของเขาก็เป็นหนึ่งในเหยื่อที่เสียชีวิตด้วย
อย่างไรก็ดี มาร์ตูนิสในวัยเพียง 8 ขวบในขณะนั้นกลับรอดชีวิตอย่างปาฏิหาริย์ หลังสูญหายไปจากเหตุการณ์คลื่นยักษ์ถล่มนานถึง 21 วัน โดยนักข่าวจาก Sky News เป็นผู้ค้นพบเจ้าหนูรายนี้
โดยมาร์ตูนิสตกเป็นข่าวโด่งดังในประเทศโปรตุเกสทันที เพราะเขาสวมเสื้อทีมชาติโปรตุเกสหมายเลข 10 ของ รุย คอสต้า ขณะถูกพบตัว และเขาก็ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า "ผมไม่รู้สึกกลัวเวลานั้นเลย เพราะผมต้องการมีชีวิตอยู่เพื่อเจอหน้าครอบครัวของผมและเป็นนักฟุตบอลอาชีพ"
คำพูดดังกล่าวได้ใจคนโปรตุเกสไปทั้งประเทศ รวมถึง คริสเตียโน โรนัลโด้ ด้วย โดยตอนนั้นซีอาร์เซเว่นซึ่งค้าแข้งอยู่กับแมนฯยูฯถึงขนาดบริจาคเงินสร้างบ้านหลังใหม่ให้กับมาร์ตูนิสกับครอบครัวเลยทีเดียว และหาโอกาสไปพบหน้าเด็กน้อยคนนี้ด้วย
ล่าสุดมาร์ตูนิสทำเอาทุกคนตื้นตันใจไปตามๆกัน เมื่อเขาทำตามความฝันเติบโตขึ้นมาเป็นนักฟุตบอลอาชีพได้สำเร็จ หลังเปิดตัวในฐานะผู้เล่นของ สปอร์ตติง ลิสบอน ทีมยู-19 เมื่อวานนี้ ทีมเดียวกับ คริสเตียโน โรนัลโด้ ผู้อุปถัมภ์และฮีโร่ของเขา

http://www.goal.com/

..............................................................................................................................................................

แรงผลักดันโด้เฉลย จุดเริ่มต้นเข้ายิมฟิตหุ่น


CRISTIANO RONALDO - Hailed as one of the most complete footballers in the planet, CR7’s attacking prowess is second to none. Think you’ve got a animalistic side too? Send in your photo <a href='https://a.pgtb.me/zHkRJd/'>here</a> and stand to win $500 ...
ซีอาร์เซเว่นเผยสาเหตุเร่งฟิตร่างกายจนมีรูปร่างสมบูรณ์แบบและกลายเป็นยอดนักเตะแห่งยุคในปัจจุบัน
คริสเตียโน โรนัลโด้ ซูเปอร์สตาร์เบอร์หนึ่งของเรอัล มาดริด เปิดเผยจุดเริ่มต้นของการเข้ายิมฟิตหุ่นจนมีรูปร่างสุดเพอร์เฟคต์ เพราะเคยโดนสบประมาทว่ามีรูปร่างผอมแห้งเกินกว่าจะเป็นนักฟุตบอลได้
กัปตันทีมชาติโปรตุเกสมีพัฒนาการด้านร่างกายก้าวหน้าอย่างเห็นได้ชัด โดยเขายังมีรูปร่างผอมบางอยู่เลยตอนเซ็นสัญญากับแมนฯ ยูฯใหม่ๆ แต่หลังจากนั้นเขาก็เร่งฟิตร่างกายอย่างขะมักเขม้นจนประสบผลสำเร็จ
ล่าสุดซีอาร์เซเว่นยอมรับในระหว่างถ่ายโฆษณาตัวใหม่ของไนกี้ว่า ตอนเขาอายุ 12 ปี มีคนบอกว่าเขาเป็นผู้เล่นที่มีพรสวรรค์ แต่รูปร่างบอบบางเกินไปสำหรับการเป็นนักเตะ
โดยปีกโปรตุกีสกล่าวต่อว่า เขาเริ่มมุ่งมั่นกับการเข้ายิมเร่งพัฒนาความแข็งแกร่งด้านร่างกายทันทีนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาเป็นสุดยอดนักเตะแห่งยุคนี้
http://www.goal.com/

..............................................................................................................................................................



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น