ชีวิตส่วนตัว
พ่อของโรนัลโดเป็นผู้อำนวยการสโมสรฟุตบอลเล็ก ๆ ที่ชื่ออังดูริญญา และพ่อเขาขอให้กัปตันทีมที่ชื่อฟือร์เนา โซซา (Fernão de Sousa) เป็นพ่อทูนหัว ส่วนแม่ของเขามีอาชีพเป็นแม่ครัว โรนัลโดช่วยเหลือครอบครัวเป็นอย่างดี ช่วยพี่สาวคนโตเปิดร้านขายเสื้อผ้าที่เกาะมาเดรา ส่วนพี่สาวอีกคน กาเตีย เป็นนักร้อง มีวงดนตรีชื่อ "Ronalda"
โรนัลโดประกาศว่าเขาได้กลายเป็นพ่อคนแล้ว เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม ค.ศ. 2010 โดยประกาศในเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์อย่างเป็นทางการของเขา โดยพูดว่า เขาได้ลูกชายและต้องการความเป็นส่วนตัว โดยลูกชายของเขาชื่อว่าคริสเตียโน โรนัลโดย จูเนียร์ ที่กำเนิดมาจากหญิงนิรนาม โดยเขาได้รับสิทธิในการดูแลเด็กอย่างสมบูรณ์ภายใต้การดูแลจากแม่ของโรนัลโดและพี่สาว
นอกจากนี้แล้ว โรนัลโดยังได้รับคำชื่นชมจากอาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ นักแสดงระดับซุปเปอร์สตาร์ของฮอลลีวุด ซึ่งเป็นอดีตสุดยอดนักเพาะกายโลก 7 สมัย ว่า เป็นนักฟุตบอลที่มีรูปร่างสมบูรณ์แบบที่สุดอีกด้วย
คริสเตียโน โรนัลโด เกิดเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2528 ที่เกาะมาเดรา ประเทศโปรตุเกส เป็นบุตรชายของนายฌูแซ ดีนิช อาไวรู (เสียชีวิตเมื่อปี พ.ศ. 2548 ขณะมีอายุ 52 ปี) กับนางมารีอา ดูโลรึช อาไวรู เป็นบุตรชายคนเล็กในพี่น้อง 4 คน ถึงแม้ตอนเกิดเขาจะคลอดก่อนกำหนดแต่ก็มีน้ำหนักสมบูรณ์ถึง 8 ปอนด์ ทวดฝ่ายมารดาของเขา อีซาเบล ดา ปีดาดึ มีพื้นเพมาจากประเทศกาบูเวร์ดี (เคปเวิร์ด)
ที่มาของชื่อโรนัลโดนั้น บิดาของเขาเป็นผู้ตั้งให้ โดยได้แรงบันดาลใจจากชื่อของนายโรนัลด์ เรแกน อดีตประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นบุคคลที่บิดาของโรนัลโดชื่นชอบตั้งแต่เรแกนยังเป็นนักแสดงอยู่
ครอบครัวของโรนัลโดอาศัยอยู่ที่ย่านกิงตาดูฟัลเซา เขตซังตูอังตอนีอูของเมืองฟุงชาล ซึ่งเป็นเขตที่มีประชากรยากจนอาศัยอยู่มาก โรนัลโดเริ่มเล่นฟุตบอลที่นี่ ซึ่งในตอนเด็กเขาจะชอบเล่นฟุตบอลมาก บริเวณตามถนน พอตอนเขาอายุ 6 ขวบ เขาเริ่มต้นเล่นฟุตบอลอย่างจริงจังในทีมชุดใหญ่ของทีมอังดูริญญา (Andorinha) โดยการชักชวนของญาติเขาที่อยู่ในทีมนี้ พอถึงปี พ.ศ. 2538 โรนัลโดย้ายไปอยู่กับทีมนาซีอูนัล (Nacional) โดยมีการจ่ายค่าตัวเป็นชุดฟุตบอลและลูกบอล
ที่มาของชื่อโรนัลโดนั้น บิดาของเขาเป็นผู้ตั้งให้ โดยได้แรงบันดาลใจจากชื่อของนายโรนัลด์ เรแกน อดีตประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นบุคคลที่บิดาของโรนัลโดชื่นชอบตั้งแต่เรแกนยังเป็นนักแสดงอยู่
ครอบครัวของโรนัลโดอาศัยอยู่ที่ย่านกิงตาดูฟัลเซา เขตซังตูอังตอนีอูของเมืองฟุงชาล ซึ่งเป็นเขตที่มีประชากรยากจนอาศัยอยู่มาก โรนัลโดเริ่มเล่นฟุตบอลที่นี่ ซึ่งในตอนเด็กเขาจะชอบเล่นฟุตบอลมาก บริเวณตามถนน พอตอนเขาอายุ 6 ขวบ เขาเริ่มต้นเล่นฟุตบอลอย่างจริงจังในทีมชุดใหญ่ของทีมอังดูริญญา (Andorinha) โดยการชักชวนของญาติเขาที่อยู่ในทีมนี้ พอถึงปี พ.ศ. 2538 โรนัลโดย้ายไปอยู่กับทีมนาซีอูนัล (Nacional) โดยมีการจ่ายค่าตัวเป็นชุดฟุตบอลและลูกบอล
ในช่วงที่โรนัลโดอายุ 8 ขวบ โรนัลโดได้เล่นให้กับสโมสรฟุตบอลอังดูริญญา ซึ่งพ่อของเขาเป็นผู้จัดการทีมของสโมสรแห่งนี้ ในปี ค.ศ. 1995 โรนัลโดได้ทำสัญญากับสโมสรฟุตบอลท้องถิ่นคือ สโมสรฟุตบอลนาซีอูนัล และได้เล่นให้กับสโมสรนี้เป็นเวลา 5 ปี แล้วได้ย้ายไปอยู่กับสปอร์ติกกลูบีดีปูร์ตูกาล (สปอร์ติงลิสบอน) ในช่วงปี ค.ศ. 1997 และได้สำเร็จการเล่นฟุตบอลเยาวชนให้กับในประเทศของตน
โรนัลโดได้ย้ายมาอยู่กับสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดด้วยค่าตัว 12.5 ล้านปอนด์ ในฤดูกาล 2002–03 โรนัลโดใช้เวลาไม่นานนักในการปรับตัวให้เข้ากับพรีเมียร์ลีก และผลงาน 8 ประตู จากการลงสนาม 39 นัด ซึ่งรวมถึงประตูแรกในรอบชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพกับมิลล์วอลล์ ก็ทำให้เขาได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด (Sir Matt Busby Player of the Year) ประจำฤดูกาล 2003/04 โรนัลโดกับการพาทีมชาติโปรตุเกสผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศในศึกยูโร 2004 ก่อนพ่ายให้กับ กรีซ 0 - 1
ในฤดูกาลที่ 2 ของโรนัลโดกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ฟอร์มไม่ดีเท่ากับปีแรก หลังจากที่จบฤดูกาลด้วยการลงสนาม 50 นัด แต่ทำได้แค่ 9 ประตู ในฤดูกาล 2005/06 โรนัลโดก็เรียกฟอร์มเก่งของตัวเองมาได้อีกครั้งในช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง ด้วยการทำ 12 ประตู จากการลงสนาม 47 นัด
โรนัลโดคว้ารางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมของฟิฟโปร (FIFPro Special Young Player of the Year 2005) ซึ่งเป็นรางวัลเดียวที่ให้แฟน ๆ เป็นผู้ลงคะแนนโหวตตัดสิน และในปีเดียวกันเขาก็ได้อันดับที่ 20 ในตำแหน่งผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่าด้วย
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
ฤดูกาล 2006–2009
เมษายน 2007 คริสเตียโน โรนัลโด คว้ารางวัลผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยมและผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำปี 2007 ของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษหรือพีเอฟเอไปครอง โดยเป็นผู้เล่นรายที่ 2 ในประวัติศาสตร์ที่สามารถคว้ารางวัลเกียรติยศทั้งสองมาครอบครองในเวลาเดียวกัน หลังโชว์ฟอร์มสุดยอดมาตลอดฤดูกาลนี้โดยก่อนหน้านี้ แอนดี เกรย์ เคยทำได้เมื่อปี 1977 หรือ ราว 30 ปีก่อน[11]ในศึกฟุตบอลโลก 2006 โรนัลโดถูกแฟนบอลอังกฤษรุมโห่ไล่หลังจากที่มีส่วนทำให้เวย์น รูนีย์ เพื่อนร่วมทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ต้องถูกไล่ออกในเกมที่อังกฤษพบกับโปรตุเกส โรนัลโดถูกสื่อในอังกฤษกดดันและต่อว่า อย่างไรก็ดีโรนัลโดยังคงเล่นให้กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน ค.ศ. 2009 แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดยอมรับว่า ได้รับข้อเสนอการซื้อตัวจากสโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริดด้วยค่าตัว 80 ล้านปอนด์ ซึ่งก็ปรากฏว่าโรนัลโดก็มีความต้องการที่จะออกจากสโมสรเช่นกัน โดยเขาได้ตกลงย้ายออกไป การซื้อตัวครั้งนี้ถือเป็นสถิติค่าตัวแพงที่สุดในโลก
โดยผลงานของโรนัลโดได้ลงเล่นเป็นตัวจริง 299 นัด ทำประตูได้ 118 ประตู
เกียรติประวัติกับสโมสร
เรอัลมาดริด
ฤดูกาล 2009-10
ในวันที่ 26 มิถุนายน ค.ศ. 2009 สโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริด ได้ซื้อตัวโรนัลโดมาด้วยค่าตัวถึง 80 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นสถิติการซื้อนักฟุตบอลที่แพงที่สุดในโลกจากสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในประเทศอังกฤษ เขาได้รับตำแหน่งสวมเสื้อหมายเลข 9 โดยในฤดูกาลนี้โรนัลโดทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมโดยได้ลงเล่นเป็นตังจริงทั้งหมด ถึง 35 นัด ทำประตูไปได้ 33 ประตู ซึ่งครองดาวซัลโวสูงสุดของลาลีกา ในฤดูกาลนี้ โดยโรนัลโดได้ถูกเล่นในตำแหน่งกองหน้า และบางครั้งเขาอาจจะเล่นในตำแหน่งปีกขวา โรนัลโดทำประตูแรกตั้งแต่มาอยู่กับเรอัลมาดริดคือในนัดที่เจอกับสโมสรฟุตบอลอัตเลตีโกมาดริด โดยเรอัลมาดริดชนะไป 2-0 และในวันที่ 15 กันยายน ค.ศ. 2009 โรนัลโดได้ยิงลูกฟรีคิกระยะใก้ลถึงสองครั้งในนัดที่เจอกับเอฟซี ซูริช โดยเรอัลมาดริดชนะไป 5-2 ในเกมยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกร
เกียรติประวัติกับสโมสร
- ลาลีกา : 2011–12
- โกปาเดลเรย์ : 2010–11
- ซูเปร์โกปาเดเอสปาญา : 2012
- ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก: 2013/2014
- แชมป์สโมสรโลก:2014/2015
ทีมชาติ
โรนัลโดได้ลงเล่นให้กับฟุตบอลทีมชาติโปรตุเกส นัดแรกที่โปรตุเกสชนะคาซัคสถาน ไป 1-0 ในวันที่ 20 สิงหาคม ค.ศ. 2003
ยูโร 2004
โรนัลโดได้ถูกเรียกตัวไปไปเล่นในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2004 ประตูแรกในนามทีมชาติชุดใหญ่ของเขาคือตอนที่โปรตุเกสชนะกรีซไป 2-1 ในรอบแบ่งกลุ่ม และจากนั้นก็ยิงประตูต่อในนัดรอบก่อนรองชนะเลิศที่โปรตุเกสเจอกับเนเธอร์แลนด์ ซึ่งโปรตุเกสชนะไป 2-1 เขาได้เป็นหนึ่งในผู้เล่นคนสำคัญของทีมนักฟุตบอลยอดเยี่ยมประจำแห่งฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปของการแข่งขันแม้จะยิงได้เพียงแค่ 2 ประตู.นอกจากนี้เขายังเป็นตัวแทนของทีมชาติโปรตุเกสในโอลิมปิกฤดูร้อน 2004
ฟุตบอลโลก 2006โรนัลโดได้เป็นรองดาวซัลโวในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ในโซนยุโรปด้วยการยิงไป 7 ประตู และประตูแรกของเขาในฟุตบอลโลก คือนัดที่พบกับอิหร่าน ด้วยการยิงลูกโทษ เมื่อมาถึงรอบคัดเลือกรอบสุดท้าย ได้พบกับอังกฤษในวันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 2006 โรนัลโดได้พบเพื่อนร่วมทีมจากแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ซึ่งก็คือ เวย์น รูนีย์ และรูนีย์ได้ไปทำฟาวล์ใส่กองหลังทีมชาติโปรตุเกสซึ่งคือ รีการ์ดู การ์วัลยู สื่ออังกฤษสันนิษฐานว่าโรนัลโดมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของผู้ตัดสินโอราซีโอ เอลีซอนโด โดยอุกอาจบ่นหลังจากที่เขาได้เห็นตรงม้านั่งสำรองของทีมชาติโปรตุเกสหลังจากการไล่รูนีย์ออก หลังการแข่งขันโรนัลโดยืนยันว่ารูนีย์เป็นเพื่อนของเขาและว่าเขาไม่ได้เป็นคนที่เกี่ยวกับการไล่รูนีย์ออกจากสนาม วันที่ 4 กรกฎาคม อริซอนโดได้บอกกับทางสื่อว่าการที่เขาแจกใบแดงให้รูนีย์เพราะเป็นการทำผิดของกฎฟุตบอลเท่านั้น ไม่ได้มีส่วนที่เกี่ยวข้องกับโรนัลโดเลย
หนังสือพิมพ์ของประเทศอังกฤษ ได้ประกาศข่าวร้ายของโรนัลโดเนื่องจากในข่าวบอกว่าเขาจะออกจากสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดจากเหตุใบแดงของรูนีย์ และเขาได้ถูกกล่าวลงในหนังสือกีฬาประจำวันของประเทศสเปนว่าเขาจะย้ายไปอยู่กับเรอัลมาดริดและเมื่อเฟอร์กูสันผู้จัดการทีมได้ทราบเขาเลยส่งผู้ช่วยการ์ลุช ไกรอช เพื่อมาพูดคุยกับโรนัลโดเพื่อเปลี่ยนความคิดของเขาในการย้ายจากสโมสรเพราะเหตุการณ์ของรูนีย์ โรนัลโดตัดสินใจอยู่กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด และทำสัญญาใหม่ของเขาเป็นเวลา 5 ปี ในเดือนเมษายน ค.ศ. 2007
โรนัลโดถูกโห่ในระหว่างการแข่งขันโปรตุเกสกับฝรั่งเศสในรอบก่อนรองชนะเลิศซึ่งโปรตุเกสได้แพ้ไป และพลาดรางวัลผู้เล่นของการแข่งขันที่ดีที่สุด. แม้ว่าการโหวตออนไลน์รับผลกระทบเพียงกระบวนการสรรหา กลุ่มศึกษาทางเทคนิคของฟีฟ่าได้รับรางวัลเกียรติยศของเยอรมนีไปให้ลูคัส โพดอลสกี โดยอ้างว่าพฤติกรรมของโรนัลโดเป็นปัจจัยในการตัดสินใจ
งานอื่น
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กัปตันทีมชาติโปรตุเกส ของเรอัล มาดริด กลายเป็นนักเตะที่ร่ำรวยที่สุดในโลก โดยมีทรัพย์สินมหาศาลถึง 210 ล้านยูโร (หรือประมาณ 10,403 ล้านบาท) หรือ 152.3 ล้านปอนด์ และมากกว่า ลิโอเนล เมสซี่ ดาวเตะอาร์เจนไตน์ ของบาร์เซโลน่า คู่แข่งร่วมลีก อยู่ 7 ล้านปอนด์ จากการสำรวจ โกลดอทคอม (Goal.com Rich List 2015) เว็บไซต์ฟุตบอลชื่อดัง
รายงานข่าวระบุว่า การสำรวจครั้งนี้ คำนวณจากรายได้สปอนเซอร์ของนักเตะ ค่าจ้างและโบนัสที่ได้รับจากต้นสังกัด รวมไปถึงธุรกิจส่วนตัวของนักเตะด้วย
ทั้งนี้เมื่อปี 2014 ที่ผ่านมา โรนัลโด้ วัย 30 ปี ทำผลงานได้ยอดเยี่ยม โดยมีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ ราชันชุดขาว คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก สมัยที่ 10 รวมถึงอดีตแข้งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคว้ารางวัล บัลลงดอร์ 2014 มาครองได้อีกด้วย
นอกจากนี้ โรนัลโด้ ยังได้รับค่าจ้างจากการเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับบริษัทชั้นนำของโลก อย่าง โตโยต้า, เฮอร์บาไลฟ์, ซัมซุง และ ไนกี้ อีกด้วย
ส่วนอันดับ 2 คือ ลิโอเนล เมสซี่ กัปตันทีมอาร์เจนติน่า จากบาร์เซโลน่า มีทรัพย์สิน 145 ล้านปอนด์ (หรือประมาณ 7,183 ล้านบาท)
อันดับ 3 คือ เนย์มาร์ กองหน้าทีมชาติบราซิล จากบาร์เซโลน่า มีทรัพย์สิน 97.9 ล้านปอนด์ (หรือประมาณ 4,849 ล้านบาท)
อันดับ 3 คือ เนย์มาร์ กองหน้าทีมชาติบราซิล จากบาร์เซโลน่า มีทรัพย์สิน 97.9 ล้านปอนด์ (หรือประมาณ 4,849 ล้านบาท)
10 สถิติมหัศจรรย์ ของคริสเตียโน โรนัลโด้
10. คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยิงประตูครบ 300 ประตูได้เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลลาลีก้าสเปน
9. คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นนักเตะ เรอัล มาดริด คนแรกที่ยิงประตูมากกว่า 30 ประตูในทุกซีซั่นที่ลงเล่น
8. คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทำประตูด้วยศรีษะมากที่สุดในศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกที่จำนวน 12 ประตู
7. ไม่ว่า เรอัล มาดริด จะลงเล่นในวันไหนของสัปดาห์ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นแข้งคนแรกที่ยิงประตูได้ในทุกวัน
6. คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นนักเตะคนแรกที่ยิงประตูได้มากกว่า 40 ประตู 2 ฤดูกาลติดต่อกันในลีก
5. คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นนักเตะคนแรกของโลกที่ยิงประตูได้มากกว่า 50 ประตู(ในทุกรายการ) ตลอด 4 ฤดูกาลติดต่อกัน
4. คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นนักเตะคนแรกที่ยิงประตูในศึกเอลกลาซิโก้ ได้ 6 ครั้งติดต่อกัน
3. ปัจจุบัน คริสเตียโน่ โรนัลโด้ มีค่าเฉลี่ยการยิงประตูอยู่ที่ 1.11 ต่อเกม
2. คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นนักเตะคนแรกของโลกที่ยิงประตูได้มากกว่า 60 ประตู ในหนึ่งรอบปีปฏิทินได้ 4 ปีติดต่อกัน
1. คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นนักเตะคนแรกที่ยิงประตูได้ในทุกนาทีของการแข่งขัน (ไม่ใช่ในแค่ 90 นาที แต่หมายถึงตั้งแต่นาทีที่ 1 ถึงนาทีที่ 120)
5 อันดับของนักฟุตบอลที่รวยที่สุในโลก 2014 จากโกลดอทคอม นั้นมีรายชื่อังต่อไปนี้
1. คริสเตียโน โรนัลโด้ (รีล มาดริด/โปรตุเกส) 122 ล้านปอนด์ (ประมาณ 6,710ล้านบาท)
2. ลิโอเนล เมสซี่ (บาร์เซโลนา/อาร์เจนตินา) 120.5 ล้า่นปอนด์ (ประมาณ 6,627 ล้านบาท)
3. ซามูเอล เอโต (เชลซี/แคเมอรูน) 70 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,850 ล้านบาท)
4. เวย์น รูนีย์ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็/อังกฤษ) 69 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,795 ล้านบาท)
5. ริคาร์โด กาก้า (เอซีมิลาน/บราซิล) 67.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,712ล้านบาท )
10 อันดับนักฟุตบอลที่หล่อที่สุดในโลก จากการจัดอันดับปี 2015
1.Cristiano Ronaldo – Real Madrid
อันดับ 1 ตกเป็นของเจ้าของรางวัลบอลทองคำคนล่าสุด และดาวซัลโวคนปัจจุบันของทีมเรอัล มาดริด อย่าง คริสติโน่ โรนัลโด้ ที่ได้รับเสียงโหวตจากสาวๆ ให้ติดอันดับ 1 ของนักฟุตบอลที่หล่อที่สุดในโลก ปี 2015 นี้ ด้วยใบหน้าสุดหล่อเหลา หุ่นดี และทรงผม ที่ถูกใจสาวๆ
อันดับ 2 กาก้า
นักฟุตสุดหล่อจากอดีตทีมเรอัล มาดริดที่หล่อติดทำเนียบมาหลายปี แม้ตอนนี้จะอายุเยอะขึ้น และปัจจุบันย้ายไปเล่นให้กับทีม ออร์แลนโดซิตี้ ทำให้ข่าวคราวหายไปบ้าง แต่ด้วยหน้าตา รูปลักษณ์ที่ดีทั้งในและนอกสนาม บวกด้วยทรงผมใหม่ที่ดูแปลกตา ทำให้หนุ่มกาก้า ได้รับเสียงโหวตจากบรรดาสาวๆ แฟนฟุตบอล และเป็นหนึ่งในหนุ่มนักฟุตบอลที่หล่อที่สุดในทำเนีบบปี 2015 นี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น